การรักษาโรคต้อกระจก (Phacoemulsification)
ผู้ที่มีอายุ 55-60 ปีขึ้นไป มักประสบกับภาวะ “ต้อกระจก” ซึ่งสาเหตุเกิดจากการเสื่อมสภาพของเลนส์แก้วตา ทำให้เลนส์ตาซึ่งปกติแล้วจะมีลักษณะโปร่งใส่เหมือนกระจก กลายเป็นสีขาวขุ่น ส่งผลให้แสงผ่านเข้าไปยังจอประสาทตาได้น้อยลง ทำให้เกิดอาการตาฟางหรือมืดมัว มองเห็นภาพไม่ชัด
Laser Vision ขอแนะนำ การผ่าตัดสลายต้อกระจกด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Phacoemulsification) ซึ่งเป็นวิธีการรักษาต้อกระจกวิธีใหม่โดยการใช้คลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasound) สลายต้อกระจกและดูดออกมา ซึ่งเป็นที่นิยมมากในขณะนี้ เนื่องจากแผลผ่าตัดจะมีขนาดเล็กเพียง 2.6-3.0 มิลลิเมตรเท่านั้น จากนั้นแพทย์จะใส่เลนส์แก้วตาเทียมแบบพับได้ลงไป สำหรับผู้ที่มีปัญหาสายตาสั้น ยาว หรือเอียง ร่วมด้วยนั้น แพทย์จะใส่เลนส์ที่มีกำลังขยายพอดีเข้าไปในตำแหน่งที่ต้องการ ทำให้สามารถกลับมามองเห็นได้อย่างรวดเร็ว การผ่าตัดนี้ใช้เวลาน้อย ไม่จำเป็นต้องมีการเย็บแผล นอกจากนี้ยังไม่ต้องฉีดยาหรือดมยาสลบทำให้การผ่าตัดมีความปลอดภัยมากขึ้น
โดยผู้ที่จะเข้ารับการรักษาโรคต้อกระจก ควรได้รับการตรวจและประเมินสภาพตาโดยละเอียดก่อน เพื่อให้แพทย์พิจารณาว่าสภาพตาของท่านเหมาะสมกับการรักษาหรือไม่ และเลนส์เทียมชนิดใดเหมาะสมกับสภาพตาของท่านมากที่สุด
การรักษาโรคต้อกระจกด้วยวิธีสลายต้อ (Phacoemulsification)
การรักษาโรคต้อกระจกด้วยวิธีสลายต้อ(Phacoemulsification) เป็นการผ่าตัดโดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasound) เข้าไปสลายเลนส์ที่เสื่อมสภาพในถุงหุ้มเลนส์แล้วดูดออกมาผ่านท่อขนาดเล็กมาก ถุงหุ้มเลนส์ยังคงอยู่ครบสมบูรณ์ทำให้สามารถใส่เลนส์แก้วตาเทียมขนาดเล็ก หรือเลนส์แก้วตาเทียมชนิดนิ่มพับได้เข้าไปแทนที่เลนส์แก้วตาเดิม การผ่าตัดวิธีนี้มักจะไม่ต้องเย็บแผล เนื่องจากแผลมีขนาดเล็กมากๆ ทำให้แผลสามารถติดกันโดยอัตโนมัติ การรักษาด้วยวิธีนี้ถือเป็นวิธีมาตรฐานที่ Laser Vision เลือกใช้ในการรักษาต้อกระจก
ในบางรายหลังการรักษาแล้ว เยื่อหุ้มเลนส์อาจจะขุ่นได้อีก ทำให้มีอาการคล้ายกับ “ต้อกระจก” อีกครั้ง คือเริ่มมองเห็นไม่ชัดอีก อาการดังกล่าวนี้ เรียกว่า “ภาวะถุงหุ้มเลนส์เสื่อม” (Posterior Capsule Opacification) ซึ่งอาการนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน และสามารถรักษาได้โดยการใช้เลเซอร์ชนิดพิเศษที่เรียกว่า YAG Laser เพื่อไปเปิดช่องเยื่อหุ้มเลนส์ด้านหลังออกทำให้แสงที่ผ่านเข้ามาในลูกตาตก ที่จอประสาทตาพอดี สามารถมองเห็นได้ชัดเจนอีกครั้ง การรักษานี้ใช้เวลายิงเลเซอร์เพียงไม่กี่นาที และไม่มีความเจ็บปวดแต่อย่างใด
ข้อดีของการรักษาต้อกระจกด้วยวิธี Phacoemulsification
● ใช้เวลาพักฟื้นระยะเวลาสั้น สามารถกลับบ้านได้ทันที่หลังจากทำการผ่าตัดโดยไม่มีความจำเป็นต้องนอนพักในโรงพยาบาล
● สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การเดินทางหรือแม้แต่การออกกำลังกาย
● สามารถมองเห็นได้ตามปกติได้รวดเร็วกว่า และใช้สายตาได้ทันที
● แผลผ่าตัดขนาดเล็ก การผ่าตัดใช้เวลาน้อยไม่จำเป็นต้องเย็บแผล เป็นการรักษาที่มีความปลอดภัยสูง