Nano Precision,

  Macro Benefits

 

    รับสิทธิพิเศษสำหรับ NanoRelex

    เฉพาะเดือนเมษายนนี้ คลิกที่นี่

 

 

Best Vision
Best Version

Laser Vision គឺជាគោលដៅចុងក្រោយសម្រាប់នីតិវិធី LASIK, FemtoLASIK និង Relex ក្រុមគ្រូពេទ្យជំនាញរបស់យើងប្តេជ្ញាផ្តល់ការថែទាំកម្រិតខ្ពស់ហើយយើងប្រើប្រាស់បច្ចេកវិទ្យាចុងក្រោយបង្អស់ដើម្បីធានានូវលទ្ធផលល្អបំផុត ជឿជាក់លើពួកយើងដើម្បីជួយអ្នកឱ្យសម្រេចបាននូវចក្ខុច្បាស់លាស់ដែលអ្នកសមនឹងទទួលបាន

NanoRelex VS NanoLASIK
What's the difference?

Click here to learn more before deciding on the best treatment.

ជ្រុងនៃសុខភាពភ្នែក

តម្រៀប
Dry eyes
Dry eyes ទឹកភ្នែកដើរតួនាទីយ៉ាងសំខាន់ក្នុងការរក្សាភ្នែករបស់យើងឱ្យមានសំណើម, ធានាឱ្យឃើញច្បាស់ដោយអនុញ្ញាតឱ្យពន្លឺឆ្លងកាត់កែវភ្នែកប្រកបដោយប្រសិទ្ធភាព និងផ្គត់ផ្គង់អុកស៊ីហ្សែនចិញ្ចឹមភ្នែក។ វាក៏ជួយការពារការឆ្លងមេរោគនិងសារធាតុផ្សេងៗផងដែរ។    នៅពេលដែលភ្នែកស្ងួត, វាជាបញ្ហាទូទៅមួយដែលអាចកើតឡើងពីការផលិតទឹកភ្នែកមិនប្រក្រតីឬទឹកភ្នែកមានការហួតលឿនពេក។ វាអាចធ្វើអោយមានភាពមិនស្រណុក, ក្រហាយ, មានអារម្មណ៍ថាដូចមានអ្វីនៅក្នុងភ្នែករបស់អ្នក, ភ្នែកមានសភាពក្រហម, រោយ, មើលឃើញព្រិលៗដែលទទួលភាពប្រសើរជាមួយការព្រិចភ្នែក, ឬសូម្បីតែមានអារម្មណ៍ថារោយភ្នែក។ ហេតុផលដែលមានភ្នែកស្ងួតអាចមានការប្រែប្រួលនៅពេលកាន់តែចាស់ឬជាស្រ្ដី (យេស៎, យើងងាយនឹងរងនូវភ្នែកស្ងួត) ការអាលាក់ហ្សីជាមួយថ្នាំ, ការចំណាយជាច្រើនពេលទៅលើ Screens, នៅទីកន្លែងដែលមានដី ផ្សែង ឬ មានខ្យល់ខ្លាំងនិងមានពន្លឺច្រើន, រួមបញ្ចូលទាំងអស់។    ប៉ុន្ដែមានដំណឹងល្អនោះគឺជាពិធីនៃការព្យាបាលភ្នែកស្ងួត:   ការចៀសឆ្ងាយពីអ្វីដែលអាចធ្វើអោយវាកាន់តែអាក្រក់ដូចជាខ្យល់ខ្លាំងនិងធូលីដីដោយគ្រាន់តែពាក់វែនតានិងការការពារភ្នែក។ ចងចាំថាត្រូវសំរាកឬព្រិចភ្នែកអោយបានញឹកញាប់ ជាពិសេសនៅពេលអ្នកជាប់ជាមួយ Screen ខណៈណាមួយ។  អ្នកទទួលបាននូវថ្នាំបណ្ដក់ភ្នែកដែលហៅថាទឹកភ្នែកសុប្បនិមិត្ត។ មានពីប្រភេទគឺសម្រាប់ពេលថ្ងៃ (ទឹកច្រើន) និងពេលយប់ (ក្រាស់បន្ដិច) ដែលត្រូវប្រើអាស្រ័យទៅលើស្ថានភាពភ្នែកស្ងួតរបស់អ្នក។  ពេលខ្លះពេទ្យរបស់អ្នកអាចនែនាំថ្នាំបណ្ដក់ភ្នែកពិសេសដែលជំរុញអោយភ្នែករបស់អ្នកបង្កើតទឹកភ្នែកបានច្រើន។  ផ្ដល់ការព្យាបាលភ្នែករបស់អ្នកជាមួយក្រណាត់ស្អាតហើយក្ដៅឧន្ឌៗ រួចស្អំលើភ្នែកដើម្បីជូយអោយមានអារម្មណ៍ល្អប្រសើរ។ ប្រសិនបើភ្នែកស្ងួតកាន់តែខ្លាំងហើយមិនប្រសើរឡើង ការជជែកជាមួយគ្រូពេទ្យភ្នែកគឺជារឿងល្អ។   សរុបមក ភ្នែកស្ងួតអាចជាបញ្ហារំខានមួយ ប៉ុន្តែមានដំណោះស្រាយនៅទីនោះ។ វាជារឿងសំខាន់ក្នុងការថែរក្សាភ្នែករបស់អ្នកឱ្យបានល្អ ជាពិសេសនៅពេលដែលមានសភាពស្ងួតនៅខាងក្រៅ (អាកាសធាតុស្ងួត)។ ប្រសិនបើអ្នកសង្ស័យថាអ្នកមានបញ្ហាភ្នែកស្ងួត ការជជែកជាមួយអ្នកជំនាញផ្នែកថែរក្សាភ្នែកគឺជាទង្វើដ៏ឆ្លាតវៃ។
អាន​បន្ថែម
Laser Vision
ภูมิแพ้ขึ้นตาทำเลสิกได้ไหม?
ภูมิแพ้ขึ้นตาคืออะไร? ภูมิแพ้ขึ้นตา (Allergic Conjunctivitis) คืออาการที่เยื่อบุตาเกิดการตอบสนองต่อสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น ขนสัตว์ เกสรดอกไม้ เป็นต้น ซึ่งถือว่าเป็นโรคที่พบได้บ่อยในทุกช่วงวัย  ภูมิแพ้จะมีทั้งตามฤดูกาล คือ อาการจะรุนแรงในช่วงเวลาที่มีสารก่อภูมิแพ้มาก เช่น ในฤดูหนาวที่อากาศแห้งและมีฝุ่นเยอะ หรือภูมิแพ้ตลอดปี บางคนอาจมีอาการคันตา ตาบวมแดงได้ตลอดปีเนื่องจากเจอสิ่งกระตุ้นในชีวิตประจำวัน   อาการที่พบ คันตา ตาแดง น้ำตาไหล ตาบวม รวมถึงมีอาการร่วมอื่นๆอย่างการจาม น้ำมูกไหล หอบ หรือมีผื่นขึ้นตามตัวเป็นต้น ในกรณีที่มีภาวะแทรกซ้อน อาจรุนแรงถึงกระจกตาอักเสบหรือติดเชื้อได้ น้ำตาไหล: น้ำตาไหลออกมาเป็นจำนวนมาก   สาเหตุ - กรรมพันธุ์ ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นภูมิแพ้อาจมีความเสี่ยงมากขึ้น - ระบบภูมิคุ้มกัน: เมื่อระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองต่อสารกระตุ้นมากเกินไป จะหลั่งสารต่างๆ ออกมาจนทำให้เกิดอาการภูมิแพ้   วิธีรักษา 1.หลีกเลี่ยงการขยี้ตา: การขยี้ตาอาจทำให้สิ่งสกปรกเข้าสู่ตาและเกิดการอักเสบได้ 2.ประคบเย็น: ช่วยทุเลาอาการคันและบวม 3.ใช้น้ำตาเทียม: ช่วยบรรเทาอาการตาแห้งและคัน 4.ยาหยอดตาสำหรับภูมิแพ้: ใช้ยาหยอดตาที่มีส่วนผสมของยาแก้แพ้หรือยาลดการอักเสบ 5.ปรึกษาจักษุแพทย์: ก่อนใช้ยาหยอดตา ควรปรึกษาแพทย์เพื่อความปลอดภัย   เป็นภูมิแพ้ขึ้นตา ยังทำเลสิกได้ไหม? คำตอบคือทำได้ แต่ต้องมีการประเมินความพร้อมของตาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตามข้อควรพิจารณา ดังนี้ - สุขภาพตา: ต้องมีสุขภาพตาที่แข็งแรง กระจกตาไม่บางจนเกินไป - ค่าสายตา: ค่าสายตาต้องไม่เกินกำหนดสำหรับการทำเลสิก - การดูแลหลังผ่าตัด: ระวังอาการภูมิแพ้กำเริบหลังทำเลสิก ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการคันตา ในช่วงแรกหลังการผ่าตัดไม่ควรขยี้ตา - อาการตาแห้ง: หลังทำเลสิกอาจมีอาการตาแห้งมากขึ้น ควรใช้น้ำตาเทียมช่วย เพื่อลดอาการตาแห้ง   Laser Vision: บริการครบวงจรเพื่อการมองเห็นที่ชัดเจนแม้มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับดวงตา Laser Vision เป็นศูนย์เลสิกชั้นนำที่มีความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีทันสมัยที่สุดในการแก้ไขปัญหาสายตา รวมถึงการให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิดสำหรับผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ขึ้นตาแต่อยากทำเลสิก  เรามีทีมแพทย์และบุคลากรที่พร้อมให้บริการและคำปรึกษาอย่างครบวงจร เพื่อให้คุณได้รับการดูแลที่ดีที่สุด ไม่ว่าคุณจะมีปัญหาสายตาสั้น สายตายาว หรือสายตาเอียง เราพร้อมจะช่วยให้คุณมองเห็นโลกได้ชัดเจนขึ้น นัดหมายและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ที่ Laser Vision หรือโทร02-511-2111  
Laser Vision
ระวัง! โรคตาที่มาพร้อมกับหน้าฝน
เข้าหน้าฝนแล้ว นอกจากต้องระวังปัญหาเรื่องสุขภาพอย่างไข้หวัดแล้ว ก็อย่าลืมระวังโรคตาที่หลายคนเป็นกันเยอะมากในช่วงฤดูนี้ เนื่องจากหน้าฝนเป็นฤดูที่มีความชื้นสูง ทำให้ง่ายต่อการติดเชื้อนั่นเอง   โรคตาแดง (Conjunctivitis) โรคตาแดงเป็นโรคที่พบบ่อยโดยเฉพาะในช่วงหน้าฝน เกิดจากการติดเชื้อที่เยื่อบุตา ซึ่งสามารถเกิดได้จากเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อปรสิต โรคนี้สามารถติดต่อผู้อื่นได้โดยตรง หากมีการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ป่วยแล้วนำมาสัมผัสที่ดวงตาหรือขยี้ตาโดยไม่รู้ตัว การแพร่กระจายเชื้ออาจเกิดขึ้นผ่านการใช้ผ้าเช็ดตัว หมอน หรือการสัมผัสสิ่งของในที่สาธารณะ   อาการที่พบ -ตาแดง -น้ำตาไหล -ตาบวม -มีขี้ตามากกว่าปกติ -เคืองตา   การรักษา -ใช้ยาปฏิชีวนะทั้งแบบหยอดและป้ายเพื่อต้านเชื้อ -สวมแว่นกันแดดหากมีอาการเคืองตาหรือแพ้แสง -อาการมักจะคงอยู่ประมาณ 1-4 สัปดาห์   โรคตากุ้งยิง (Stye) โรคตากุ้งยิงเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดตุ่มหนองบริเวณเปลือกตาบนหรือล่าง สาเหตุมาจากการล้างมือไม่สะอาดแล้วนำมาสัมผัสดวงตา, การใช้คอนแทคเลนส์, การล้างเครื่องสำอางไม่สะอาด, ภูมิคุ้มกันตกต่ำ, หรือการต่อขนตาที่ไม่ได้รับการทำความสะอาดอย่างดีพอ โรคนี้สามารถพบได้บ่อยทั้งในช่วงหน้าฝนและฤดูอื่นๆ   อาการที่พบ -ตุ่มหนองบริเวณเปลือกตาบนหรือล่าง -ตาบวมแดง -เจ็บหรือระคายเคืองบริเวณเปลือกตา   การรักษา -รับประทานยาปฏิชีวนะเพื่อลดการติดเชื้อและทำให้หนองยุบ -กรณีที่หนองไม่ยุบ แพทย์อาจต้องทำการกรีดระบายหนองเพื่อให้หายเร็วขึ้น   ข้อควรระวังสำหรับผู้ที่มีแผนทำเลสิกในช่วงหน้าฝน สำหรับผู้ที่มีแผนจะทำเลสิกในช่วงหน้าฝน ยังสามารถทำได้ตามปกติ แต่ควรระมัดระวังและรักษาความสะอาดบริเวณรอบดวงตา เพื่อป้องกันการติดเชื้อและการแพร่กระจายเชื้อจากโรคตาแดงและตากุ้งยิง ดังนี้ 1.ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำอย่างถูกวิธี โดยเฉพาะก่อนสัมผัสดวงตาหรือใบหน้า 2.หลีกเลี่ยงการขยี้ตา เพราะอาจทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ดวงตาได้ง่ายขึ้น 3.ใช้ผ้าเช็ดตัวและหมอนส่วนตัว หลีกเลี่ยงการใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น 4.ทำความสะอาดเครื่องสำอางอย่างทั่วถึงโดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตา 5.ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการของโรคตาแดงหรือตากุ้งยิง ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมและป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ   หากกังวลเกี่ยวกับการทำเลสิกในช่วงที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในดวงตา เช่นโรคตาแดงและตากุ้งยิง สามารถมาปรึกษาที่ Laser Vision เพื่อเช็คความพร้อมก่อนทำเลสิกได้ เรามีบริการตรวจตาที่ครบวงจรและทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำแนะนำและดูแลคุณอย่างใกล้ชิด นัดหมายเพื่อปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ที่ Laser Vision หรือโทรศัพท์ 02-511-2111  
Laser Vision
ปวดหัวบ่อยๆ อาจมาจากปัญหาสายตา!
ปวดหัวบ่อยแต่ไม่ทราบสาเหตุ อาจมาจากปัญหาสายตา หลายคนโดยเฉพาะวัยทำงานต่างประสบปัญหาจากอาการปวดหัวกันเยอะ เนื่องจากความเครียดที่สะสม และอีกหลายปัจจัย แต่นอกจากการปวดหัวไมเกรน ปวดหัวจากความเครียดหรืออากาศร้อนแล้ว เรายังสามารถปวดหัวจากปัญหาสายตาได้ด้วยเช่นกัน   สายตาเอียง สายตาเอียงคือสภาวะที่ดวงตาทั้ง 2 ข้างไม่สามารถโฟกัสในจุดเดียวกันได้ ซึ่งอาจทำให้มีการเกร็งกล้ามเนื้อตาเพื่อให้สามารถมองเห็นภาพได้ชัดเจน การเกร็งนี้อาจเกิดขึ้นตลอดเวลาที่ต้องทำงานหรือใช้สายตานานๆ และสามารถทำให้เกิดอาการปวดหัวได้ หลายคนสายตาเอียงแบบไม่รู้ตัว เพราะยังสามารถมองใกล้ไกลได้ปกติในชีวิตประจำวัน แต่จะเห็นภาพซ้อนจนทำให้เพ่งโดยไม่รู้ตัวเพื่อให้ดวงตาโฟกัสภาพได้คมชัดขึ้น พอเพ่งมาทั้งวันแล้วก็จะเกิดอาการปวดหัว  ใครที่กำลังรู้สึกว่ามีปัญหาการมองภาพไม่คมชัด หรือรู้สึกลำบากในการขับรถตอนกลางคืนเนื่องจากการมองภาพไม่ชัด ควรรีบไปตรวจเพราะนอกจากการปวดหัวที่กวนใจแล้ว ยังอาจก่อให้เกิดอันตรายในการใช้ชีวิตได้   สายาตายาว  สายตายาวหมายถึงการมองภาพใกล้ๆ ที่ทำให้ต้องเกร็งสายตาเพื่อให้สามารถโฟกัสได้ถึงจุดที่ต้องการ การเกร็งนี้ทำให้กล้ามเนื้อตาทำงานหนักขึ้น และอาจทำให้เกิดอาการปวดหัวได้ เนื่องจากการใช้กล้ามเนื้อนี้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเวลาอ่านหนังสือ จะรู้สึกไม่สบายตา เมื่อต้องใช้การเพ่งมากๆก็ทำให้เกิดการปวดหัวได้เช่นกัน   สายตาปกติแต่จ้องหน้าจอเป็นเวลานาน  หลายคนที่มีสายตาปกติก็หนีไม่พ้นอาการปวดหัวจากการใช้สายตานานๆ เพราะเดี๋ยวนี้การทำงานหน้าจอคอมติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ซึ่งเป็นเรื่องที่เลี่ยงยากมากในการทำงานปัจจุบัน การจ้องจอคอมหรือโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานานจะทำให้ตาอ่อนล้า ปวดที่ขมับและกระบอกตาหลังเลิกงานได้ แต่ถ้าได้รับการพักสายตา หรือพักผ่อน วันรุ่งขึ้นก็จะกลับมาเป็นปกติ   ทั้งนี้วิธีแก้ของคนที่สายตาปกติแต่จ้องจอเป็นเวลานาน สามารถบรรเทาได้ด้วยการพักสายตาทุกๆชั่วโมง เปลี่ยนไปเดินเล่นผ่อนคลายบ้าง ก็จะช่วยให้เลี่ยงอาการปวดหัวได้ แต่สำหรับคนที่เป็นปัญหาจากค่าสายตา แนะนำให้แก้ปัญหาด้วยการตัดแว่นหรือทำเลสิกเพื่อให้ค่าสายตากลับมาเป็นปกติ ลดอาการปวดหัวได้และช่วยให้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น ที่ Laser Vision International LASIK Center เป็นศูนย์รักษาสายตาอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย พร้อมด้วยทีมแพทย์เฉพาะทางที่มากประสบการณ์ที่สามารถรักษาปัญหาค่าสายตาได้แบบครบวงจรตามความต้องการของคนไข้ สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ปรึกษาเพิ่มเติม โทร 02-511-2111  
Laser Vision
หลังทำเลสิกใช้น้ำตาเทียมแบบไหนดี? แบบน้ำ vs.แบบเจล
การใช้น้ำตาเทียมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่เพิ่งทำเลสิก เนื่องจากการทำเลสิกอาจทำให้เส้นประสาทของกระจกตาได้รับความเสียหายชั่วคราว หรือเกิดแผลที่ทำให้ดวงตามีอาการแห้งกว่าปกติในช่วงแรก น้ำตาเทียมจะช่วยลดอาการระคายเคืองและช่วยให้ดวงตาชุ่มชื้นขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในช่วง 1-3 เดือนแรกหลังการผ่าตัด   ประเภทของน้ำตาเทียม น้ำตาเทียมมีหลายแบบ แต่ที่นิยมใช้กันโดยทั่วไปจะมีแบบน้ำและแบบเจล แต่ละแบบมีคุณสมบัติและวิธีการใช้ที่แตกต่างกัน   แบบน้ำ (Liquid Artificial Tears) -น้ำตาเทียมแบบน้ำเป็นแบบที่ใช้กันโดยทั่วไปและหลายคนมักจะคุ้นเคยกับน้ำตาเทียมชนิดน้ำมากกว่า -มีทั้งแบบรายวันและรายเดือน ใช้ง่าย เพียงแค่เปิดบรรจุภัณฑ์และหยอดลงในดวงตา -น้ำตาเทียมแบบน้ำมีลักษณะเนื้อสัมผัสคล้ายน้ำตาธรรมชาติ ไม่มีสีและไม่มีกลิ่น -หากต้องหยอดบ่อยมากกว่าวันละ 4 ครั้ง ควรเลือกน้ำตาเทียมแบบที่ไม่มีสารกันเสียเพื่อลดความเสี่ยงต่อการระคายเคืองตา   แบบเจล (Gel Artificial Tears) -น้ำตาเทียมแบบเจลหรือแบบขี้ผึ้งป้ายตาจะมีลักษณะเป็นเนื้อหนืดและเข้มข้นมาก -ใช้ในกรณีที่ต้องการรักษาความชุ่มชื้นในดวงตาได้นานขึ้น เช่น ในห้องผ่าตัดที่คนไข้ต้องดมยาสลบเป็นเวลาหลายชั่วโมง -เหมาะสำหรับคนที่มีอาการตาแห้งรุนแรง เนื่องจากสามารถรักษาความชุ่มชื้นได้นานกว่าแบบน้ำ -ข้อเสียคืออาจทำให้มองเห็นไม่ชัดเจนในช่วงเวลาสั้นๆ หลังการใช้ จึงนิยมใช้ก่อนนอนหรือในช่วงที่ไม่ได้ใช้สายตามาก   การใช้น้ำตาเทียมหลังทำเลสิก หลังทำเลสิกมา ผู้ป่วยสามารถใช้น้ำตาเทียมได้ทั้งสองแบบตามความเหมาะสม: แบบน้ำ: สามารถหยิบมาใช้หยอดระหว่างวันเพื่อรักษาความชุ่มชื้น แบบเจล: ใช้เพิ่มในช่วงก่อนนอนหรือช่วงที่ไม่ได้ใช้สายตามาก โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีอาการตาแห้งรุนแรง   ในช่วง 1-3 เดือนแรกหลังทำเลสิก น้ำตาเทียมจะช่วยบรรเทาอาการตาแห้งและระคายเคือง หลังจากนั้น ดวงตาจะเริ่มกลับมาเป็นปกติ และอาจจะใช้น้ำตาเทียมแค่บางครั้งบางคราวตามความจำเป็น   ข้อแนะนำเพิ่มเติม - ปรึกษาแพทย์: ก่อนเลือกใช้น้ำตาเทียม ควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้ได้คำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาพดวงตาของแต่ละคน -รักษาความสะอาด: ควรรักษาความสะอาดของมือและบรรจุภัณฑ์น้ำตาเทียมเพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ -หลีกเลี่ยงการใช้สารกันเสีย: หากต้องใช้น้ำตาเทียมบ่อยๆ ควรเลือกใช้แบบที่ไม่มีสารกันเสียเพื่อลดความเสี่ยงต่อการระคายเคือง การเตรียมตัวและดูแลดวงตาหลังทำเลสิกอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ดวงตาฟื้นตัวได้เร็วและมีสุขภาพดีในระยะยาว   เทคโนโลยี NanoRelex ใน Laser Vision NanoRelex เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนามาจากการวิจัยทางการแพทย์และเทคโนโลยีที่มุ่งเน้นที่การรักษาและบำรุงสุขภาพดวงตา โดย NanorRelex สามารถช่วยลดอาการตาแห้งที่เกิดจากการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยเช่นกัน ใครที่มีปัญหาตาแห้งมากตั้งแต่ก่อนผ่าตัด NanoRelex ก็ถือเป็นทางเลือกที่ดี แต่ทั้งนี้ควรปรึกษาจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนว่าสุขภาพดวงตาเราเหมาะกับบการรักษาแบบไหน   หากสนใจการทำเลสิกแบบ NanoRelex หรือแบบอื่นๆ สามารถเข้ามารับคำปรึกษาได้ฟรี ติดต่อได้ที่  02-511-2111  
Laser Vision
ทำเลสิกแบบ NanoRelex แผลเล็กสมชื่อ!
ทำเลสิกแบบ NanoRelex แผลเล็กสมชื่อ!   การทำเลสิกเดี๋ยวนี้ไม่ได้น่ากลัวอีกต่อไปเพราะได้รับการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆตามเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนไปทุกวัน  ล่าสุดทาง Laser Vision ได้มีการนำเข้าและพัฒนาการทำเลสิกที่ชื่อว่า NanoRelex ที่ไร้ใบมีด เพราะใช้ตัวเลเซอร์ที่มีพลังงานต่ำระดับ Nano Jules ในการยิง ซึ่งมีความแม่นยำสูงมาก ทำให้แผลมีขนาดเพียง 2-3มิลลิเมตรเท่านั้น    ข้อดีของการทำเลสิกแบบ NanoRelex  1.ได้แผลที่เล็กมาก 2.ไม่ต้องเปิดกระจกตา 3.ถนอมกระจกตาให้คงสภาพเดิมมากที่สุด 4.ใช้เวลาทำไม่นาน 5.ใช้เวลาพักฟื้นน้อยลง 6.ลดอาการตาแห้งหลังผ่าตัด 7.ปลอดภัยสูงมากเพราะมีการทำระบบ AI มาวิเคราะห์การรักษาและปัญหาสายตา   NanoRelex เอกสิทธิ์ที่ Laser Vision ที่เดียวเท่านั้น  Laser Vision เป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในไทยที่มีการรักษาแบบ NanoRelex หากใครสนใจทำเลสิกแบบใหม่ล่าสุดที่ความปลอดภัยและแม่นยำสูง รวมถึงแผลเล็ก ฟื้นตัวเร็ว สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการรักษาด้วย NanoRelex ได้ที่ Laser Vision  ปรึกษาเพิ่มเติม โทร 02-511-2111  
Laser Vision
ทำเลสิกเหมือนกันแต่ทำไมราคาไม่เท่ากัน? ต่างกันที่ตรงไหน?
เลสิกมีกี่แบบ แต่ละแบบต่างกันอย่างไร? เลสิกในยุคปัจจุบันมีความหลากหลายมากขึ้น จากเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นอยู่ทุกวัน จนทำให้หลายคนสงสัยว่าปัจจุบันมันมีเลสิกกี่ประเภท และราคาต่างกันอย่างไรบ้าง บทความนี้จะทำการสรุปสั้น ๆ แบบเข้าใจง่ายพร้อมราคาเริ่มต้นให้ทุกคนเข้าใจได้มากขึ้น   เลสิกที่เป็นที่นิยม 1.PRK (พีอาร์เค) เป็นการรักษาค่าสายตาที่ผิดปกติโดยไม่มีการแยกชั้นกระจกตาเหมือน LASIK เหมาะกับคนที่มีกระจกตาบาง หรือบางอาชีพ เช่น ทหาร นักบิน แต่วิธีนี้จะแผลหายช้ากว่าแบบอื่นและต้องมีการติดตามผลอย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด   2.LASIK (เลสิก) คือการรักษาสายตาสั้นโดยเฉพาะ จะใช้ใบมีดแยกชั้นกระจกตาแล้วค่อยใช้ Excimer Laser ยิงไปบนกระจกตาเพื่อปรับให้ค่าสายตาเป็นไปตามที่ต้องการ และปิดชั้นกระจกตากลับที่เดิม   FemtoLASIK  (เฟมโตเลสิก) เป็นการทำเลสิกที่ล้ำขึ้นไปอีกขั้นโดยใช้เลเซอร์ที่แม่นยำสูงมาช่วยแยกชั้นกระจกตา ซึ่งสามารถกำหนดความหนาของกระจกตาได้ ทำให้มีความเป๊ะและปลอดภัยขึ้น เลเซอร์ที่ใช้มีขนาดเล็กมาก แค่ 2 ไมครอน (0.002 มิลลิเมตร) ทำให้แยกชั้นกระจกตาเรียบเรียนกว่าเครื่องแบบเก่า ช่วยลดความเสี่ยงในการแยกชั้นกระจกตาไปได้เยอะ   NanoLASIK (นาโนเลสิก) เป็นอีกขั้นที่ล้ำกว่า FemtoLASIK เพราะวิธีนี้ใช้เลเซอร์ทุกขั้นตอน ไม่มีการใช้ใบมีดเลย จึงไม่ต้องกังวลเรื่องความเจ็บ การแยกชั้นกระจกตาจะใช้ Femtosecond Laser ที่มีความเร็วและพลังงานต่ำ มีความแม่นยำและปลอดภัยมาก   NanoRelex (นาโนรีเลกซ์) (มีเฉพาะที่ Laser Vision) ล้ำที่สุดของวงการทำเลสิกที่ Laser Vision ตอนนี้ต้องยกให้ NanoRelex เป็นวิธีที่ใช้ ใช้ Femtosecond Laser ที่แม่นยำสูงในการปรับแต่งเนื้อเยื่อกระจกตา ทำให้การผ่าตัดใช้เวลาน้อยลง แผลมีขนาดเล็กเพียง 2-3 มิลลิเมตร ลดอาการตาแห้งหลังผ่าตัดและรักษารูปร่างและความแข็งแรงของกระจกตาได้ดี จุดเด่นของ NanoRelex® คือการใช้ AI วิเคราะห์ปัญหาสายตาและเพิ่มความปลอดภัยด้วยกล้อง OCT Scan ที่ช่วยให้ศัลยแพทย์เห็นชั้นกระจกตาแบบ Real-time ทำให้การผ่าตัดแม่นยำและปลอดภัยมากขึ้น เทคโนโลยีนี้นำเข้าและพัฒนาโดย Laser Vision ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกในประเทศไทย ซึ่งแต่ละแบบก็มีราคาและความเหมาะสมที่ต่างกัน ควรปรึกษาจักษุแพทย์ว่าดวงตาตัวเองเหมาะที่จะรักษาแบบไหน รวมถึงราคาของแต่ละที่ก็ต่างกัน    ที่ Laser Vision มีการทำเลสิกให้เลือกหลายแบบตามความต้องการและความเหมาะสมของคนไข้ ที่ Laser Vision International LASIK Center เป็นศูนย์รักษาสายตาอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย พร้อมด้วยทีมแพทย์เฉพาะทางที่มากประสบการณ์ที่สามารถรักษาปัญหาค่าสายตาได้แบบครบวงจรตามความต้องการของคนไข้ ไม่ว่าจะเป็นแบบ PRK, LASIK, FemtoLASIK, NanoLASIK หรือ NanoRelex ที่มีเฉพาะที่ Laser Vision ก็สามารถทำได้เช่นกัน สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ปรึกษาเพิ่มเติม โทร 02-511-2111    
  • ...
អាសយដ្ឋាន
Laser Vision International LASIK Center

10/989 Soi Prasertmanukij 33 Nuanchan Buengkum District Bangkok 10230