ใหม่ล่าสุด

 

    รับสิทธิพิเศษสำหรับ NanoRelex

    เฉพาะเดือนกรกฎาคมนี้ คลิกที่นี่

 

 

"Best Vision,
      Best Version"

ศูนย์รักษาสายตาชั้นนำของประเทศไทย เทคโนโลยีทันสมัย พร้อมการรักษาทุกรูปแบบ ดูแลโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ประสบการณ์มากกว่า 25 ปี

NanoRelex หรือ NanoLASIK

การรักษาแบบไหนดีกว่ากัน

เลือกการรักษาที่เหมาะสมกับคุณได้ที่นี่

มุมสุขภาพตา : #NanoRelex

เรียงตาม
โรคตาแห้ง
โรคตาแห้ง มารู้จักกับโรคตาแห้ง      น้ำตา มีความสำคัญในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตา ช่วยให้เรามองเห็นภาพชัดเจนโดยทำให้แสงผ่านกระจกตาได้ดี และนำออกซิเจนมาเลี้ยงกระจกตา รวมทั้งช่วยป้องกันการติดเชื้อและสิ่งแปลกปลอม      ตาแห้ง พบได้บ่อย เกิดจากความผิดปกติของน้ำตา อาจมีปริมาณน้ำตาไม่เพียงพอหรือมีการระเหยของน้ำตาที่มากเกินไป ก่อให้เกิดการบาดเจ็บที่ผิวกระจกตาและเกิดอาการไม่สบายตา อาการที่บอกว่า ตาเราเริ่มแห้ง อาจมีตั้งแต่แสบตา ระคายเคืองตา เหมือนมีสิ่งแปลกปลอมในตา ตาแดง เจ็บ พร่ามัวลงแต่ดีขึ้นเมื่อกระพริบตา หรือรู้สึกฝืดๆ หนักๆตา ลืมตาลำบาก ล้าหรือมีอาการน้ำตาไหลมากก็เป็นได้      สาเหตุของการเกิดตาแห้งนั้นมีหลากหลาย ได้แก่ อายุที่เพิ่มมากขึ้น เพศหญิงพบได้บ่อยกว่าเพศชาย อีกทั้งยาบางชนิด เช่น ยารักษาภูมิแพ้ การเพ่งหรือใช้สายตาติดต่อกันนานๆ เช่นใช้คอมพิวเตอร์ การอยู่ในที่ๆมีฝุ่นละอองและควัน ลมแรงและแสงจ้า ผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ หรือหลังทำเลสิกระยะแรก หรือจากโรคบางชนิด เช่น เบาหวาน ผิวตาเสื่อมจากสารเคมีหรือการแพ้ยาแบบรุนแรง   วิธีการรักษาตาแห้งมีหลากหลาย ดังนี้ หลีกเลี่ยงภาวะที่ทำให้เกิดอาการ เช่น เลี่ยงการโดนลมแรง ฝุ่นควัน แสงจ้า ด้วยการใส่แว่นกันแดด กันลม หลีกเลี่ยงการใส่คอนแทคเลนส์เป็นเวลานานๆ พักสายตาหรือกระพริบตาบ่อยๆ หรือหลับตาพักเป็นระยะๆ อย่างน้อย 1 นาที ทุก ½-1 ชั่วโมง หากต้องใช้สายตาติดต่อกันนานๆ ใช้น้ำตาเทียม ซึ่งมีหลายชนิด มีทั้งชนิดน้ำ (ใช้กลางวัน) และชนิดขี้ผึ้งหรือเจล (ใช้กลางคืน) น้ำตาเทียมจะแยกเป็นชนิดที่มีสารกันเสีย (รูปแบบขวด) ไม่ควรหยอดเกิน 4-5 ครั้งต่อวัน หรือชนิดที่ไม่มีสารกันเสีย (แบบกระเปาะ) ซึ่งสามารถใช้ได้บ่อยๆ โดยการเลือกน้ำตาเทียมขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ เนื่องจากแต่ละชนิดมีคุณสมบัติแตกต่างกัน การใช้ยาหยอดบางชนิดเพื่อช่วยเพิ่มปริมาณน้ำตา เช่น การใช้ยารักษาภาวะเปลือกตาอักเสบที่พบเป็นสาเหตุของน้ำตาระเหยเร็ว ร่วมกับการให้ประคบอุ่นทำความสะอาดขอบตา การอุดท่อระบายน้ำตาที่บริเวณหัวตา ทำให้น้ำตาอยู่ในดวงตาเพิ่มขึ้น มีทั้งแบบชั่วคราวและถาวร ใช้ในรายที่มีอาการตาแห้งรุนแรงหรือเรื้อรัง        โดยสรุป ตาแห้งเป็นโรคซึ่งไม่เป็นอันตรายไม่ถึงกับทำให้ตาบอด แต่จะน่ารำคาญ รบกวนการดำรงชีวิตประจำวันของผู้ป่วย แต่ก็มีวิธีหลากหลายวิธีที่ช่วยให้อาการดีขึ้น และสามารถดำรงชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุขขึ้น ช่วงนี้ลมหนาวใกล้มา อากาศมักจะแห้งมากขึ้น อย่าลืมดูแลรักษาสุขภาพตาให้ชุ่มชื้นด้วยนะคะ ถ้าสงสัยว่าตาเราแห้งหรือไม่ สามารถมาพบจักษุแพทย์เพื่อวินิจฉัยและให้การรักษาต่อไป
อ่านเพิ่มเติม
ศูนย์เลสิก LASER VISION
NanoRelex และ LASIK วิธีรักษาภาวะสายตาผิดปกติทั้งสองวิธี มีความแตกต่างกันอย่างไร?
ในปัจจุบัน ทางเลือกในการรักษาภาวะสายตาผิดปกติด้วยการผ่าตัดในประเทศไทยมีด้วยกันหลายวิธี ซึ่งในแต่ละวิธีต่างมีความเหมาะสมต่อการรักษาปัญหาทางด้านสายตาของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน อย่างไรก็ตาม วิธีการรักษาภาวะสายตาที่เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมสูงก็คงหนีไม่พ้น การผ่าตัดแก้ปัญหาภาวะสายตาผิดปกติ ด้วยวิธีการทำ LASIK และวิธีการผ่าตัดรูปแบบใหม่ NanoRelex บางคนอาจจะเคยได้ยินผ่าน ๆ กันมาบ้างแล้ว แต่ในบทความนี้ Laser Vision จะช่วยอธิบายให้เข้าใจกันมากขึ้นเอง ภาวะสายตาผิดปกติ คืออะไรและมีกี่ประเภท? ก่อนที่จะทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการรักษาภาวะสายตาผิดปกติยอดนิยม อย่างการทำ LASIK และวิธีการรักษาแบบใหม่ NanoRelex ทั้งสองวิธีมีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร เราอยากให้ทุกคนทราบกันเสียก่อนว่า อาการภาวะสายตาผิดปกติ คืออะไร? ภาวะสายตาผิดปกติ คือภาวะเกี่ยวกับปัญหาการมองเห็นทางสายตาที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยปกติการมองเห็นของคนเรา เกิดจากการที่แสงไปตกกระทบที่บริเวณผิวกระจกตา แล้วเกิดการหักเหโฟกัสไปที่จอประสาทตาพอดี ภาพที่เห็นจึงมีความคมชัดทั้งในระยะใกล้และระยะไกล ถือเป็นภาวะสายตาทั่วไป แต่หากความโค้งของกระจกตา หรือความยาวของลูกตามากหรือน้อยจนเกินไป จะทำให้ภาพที่ได้ไม่คมชัด เรียกว่าภาวะสายตาผิดปกติ ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ ภาวะสายตาสั้น ภาวะสายตายาว ภาวะสายตาเอียง และภาวะสายตายาวในผู้สูงอายุ LASIK คือวิธีการรักษาอย่างไร? การรักษาภาวะสายตาผิดปกติได้ทุกประเภท ด้วยการผ่าตัดโดยใช้ใบมีด Microkeratome แยกชั้นกระจกตาออกให้ได้ความหนาประมาณ 100 ถึง 120 ไมครอน เปิดกระจกตาทิ้งไว้ (ประมาณ 3 ถึง 5 นาที) จากนั้นจึงใช้ Excimer Laser ยิงไปลงบริเวณกระจกตา เพื่อช่วยในการปรับความโค้งกระจกตาให้เหมาะสม ให้ได้ค่าสายตาตามที่ต้องการแก้ไข แล้วจึงปิดกระจกตากลับเข้าที่เดิม ซึ่งไม่ต้องเย็บแผลปิด เพราะชั้นกระจกตาจะสมานเข้ากันเองตามธรรมชาติในภายหลัง NanoRelex คือวิธีการรักษาอย่างไร? NanoRelex คือทางเลือกใหม่ในการรักษาภาวะสายตาผิดปกติ ด้วยการใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของการทำเลสิก ได้แก่ Femtosecond Laser ที่มีความแม่นยำสูงในการปรับแต่งเนื้อเยื่อกระจกตา และนำเนื้อเยื่อกระจกตาส่วนเกินออกมาผ่านทางแผลขนาดเล็กเพียงแค่ 2 ถึง 3 มิลลิเมตร เพื่อปรับความโค้งกระจกตาให้เหมาะสม เนื่องจากวิธี NanoRelex นั้นเป็นการทำเลสิกไร้ใบมีดแบบแผลเล็ก ทำให้ผู้เข้ารับการผ่าตัดรู้สึกเบาสบายตาขณะผ่าตัด มีการรบกวนกระจกตาน้อย กระจกตาหลังผ่าตัดจึงมีความแข็งแรง เป็นวิธีการรักษาที่พัฒนาขึ้นมาใหม่จากการทำเลสิกอีกที เปรียบเทียบข้อแตกต่างของการทำ LASIK และ NanoRelex ให้เห็นภาพกันชัดเจนมากขึ้น การทำ LASIK ●       ใช้ใบมีด Microkeratome ที่มีความคมในการผ่าเปิดชั้นกระจกตา ขนาดแผลหลังผ่าตัดจะมีความยาวประมาณ 20 มิลลิเมตร ●       สามารถรักษาภาวะสายตาผิดปกติได้ทุกประเภท เพียงแต่มีข้อจำกัด คือคนที่มีกระจกตาบางหรือไม่สม่ำเสมอ จะไม่สามารถทำเลสิกได้ ●       มีโอกาสเกิดภาวะตาแห้งมากกว่าวิธีการรักษา NanoRelex ●       ค่าใช้จ่ายในการรักษาถูกกว่าวิธีการรักษา NanoRelex แต่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้นนานกว่า ●       หลังทำ LASIK ต้องปิดฝาครอบตา 1 คืน เพื่อป้องกันการขยี้ตา ●       ต้องใช้เวลาในปรับค่าสายตาประมาณ 1 ถึง 4 สัปดาห์ ค่าสายตาจึงจะกลับมาเห็นได้ชัด การทำ NanoRelex ●       วิธีการทำเลสิกแบบใหม่ที่พัฒนามาจากการทำ LASIK ดั้งเดิม เป็นการทำเลสิกไร้ใบมีด ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ Femtosecond Laser ที่มีความแม่นยำสูง ขนาดแผลหลังทำจึงมีความยาวแค่ 3 ถึง 5 มิลลิเมตร ●       ไม่มีการแยกชั้นกระจกตาด้วยใบมีด จึงไม่มีความเสี่ยงในการเกิดปัญหากระจกตาเคลื่อนตามมาในภายหลัง ●       แทบไม่มีอาการเคืองตาหรือปวดตาหลังทำเลย ●       โอกาสเกิดภาวะตาแห้งน้อยมาก ●       สามารถใช้รักษาเพื่อลดภาวะแสงฟุ้งตอนกลางคืนได้ด้วย ●       ค่าใช้จ่ายในการรักษาสูงกว่าวิธีการทำ LASIK ●       NanoRelex มีข้อจำกัด สามารถใช้รักษาภาวะสายผิดปกติ ได้เฉพาะแค่ภาวะสายตาสั้น และสายตาเอียงเท่านั้น ●       ต้องใช้เวลาในปรับค่าสายตาประมาณ 1 ถึง 4 สัปดาห์ ค่าสายตาจึงจะกลับมาเห็นได้ชัด   วิธีการรักษาภาวะสายตาผิดปกติทั้งสองวิธีต่างมีข้อจำกัดที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ภาวะค่าสายตาสั้น สายตายาว และสายตาเอียงที่สามารถรักษาได้ ระยะเวลาในการพักฟื้น ค่าใช้จ่าย รวมถึงข้อจำกัดด้านสุขภาพตาของแต่ละบุคคลในการรักษา ดังนั้นก่อนตัดสินใจเลือกวิธีการรักษาภาวะสายตาผิดปกติ ทุกคนจึงควรพบจักษุแพทย์ เพื่อเข้ารับการประเมินและรับคำแนะนำที่เหมาะสมสำหรับแนวทางในการรักษาที่เหมาะกับตัวคุณโดยเฉพาะ ภาวะสายตาผิดปกติ รักษาให้หายได้อย่างปลอดภัย ที่ Laser Vision   ทุกปัญหาภาวะสายตาผิดปกติสามารถรักษาให้ดีขึ้นได้ เพียงคุณปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการเข้ารับการรักษาที่ถูกต้อง เหมาะสมกับอาการของแต่ละบุคคล โดย Laser Vision International LASIK Center เป็นศูนย์รักษาสายตาอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย ด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 25 ปี พร้อมด้วยทีมแพทย์เฉพาะด้านและเครื่องมืออันทันสมัยได้มาตรฐานสากล สามารถดำเนินการรักษาภาวะสายตาผิดปกติได้ทุกประเภท เรามีความชำนาญในทุกแนวทางการรักษาปัญหาด้านสายตา ทั้งการทำ LASIK และการทำ NanoRelex อีกทั้งเรายังเป็นผู้บุกเบิกวิธีการรักษา NanoRelex แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยอีกด้วย ปรึกษาเพิ่มเติม โทร 02-511-211
ศูนย์เลสิก LASER VISION
เตรียมตัวก่อนทำเลสิก NanoRelex ต้องทำอย่างไรบ้าง
เตรียมตัวก่อนทำเลสิก NanoRelex ต้องทำอย่างไรบ้าง ใครที่กำลังสนใจทำเลสิกด้วยเทคโนโลยี NanoRelex ของทาง Laser Vision อยู่ละก็ทางมาอ่านบทความนี้ได้เลย    เพราะ Laser Vision ได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดในการเตรียมตัวก่อนทำเลสิกมาให้คุณไว้แล้ว มาดูสิว่าต้องทำอย่างไรบ้าง   อย่างแรก เดินทางมาที่คลินิก Laser Vision เพื่อพบ และปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวินิจฉัยดวงตา สุขภาพตาว่ามีลักษณะแบบไหน ปัจจุบันสายตาคุณเป็นอย่างไร เพื่อรับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงจะได้สอบถามข้อมูลต่าง ๆ  และทำความเข้าใจถึงขั้นตอนการทำเลสิกทั้งหมดจากแพทย์ได้เลย   ต่อมาการเตรียมตัวก่อนวันมาทำเลสิก NanoRelex ที่เป็นส่วนที่สำคัญมาก ๆ เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการพักผ่อนก่อนวันทำเลสิกที่ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ควรนอนอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงก่อนวันที่มาทำเลสิก เพื่อให้สายตาได้พักผ่อนเต็มที่ ต่อมางดใส่คอนแทคเลนส์อย่างน้อย 7 - 14 วันก่อนวันทำเลสิก งดดื่มแอลกอฮอล์ งดฉีดน้ำหอมและก็ไม่ควรแต่งหน้าในวันที่มาทำเลสิกด้วยนะ และอื่นๆ ตามคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ   อย่างที่สาม ไม่ควรขับรถยนต์มาเอง ควรพาคนในครอบครัว ญาติ เพื่อน ที่สามารถขับรถยนต์มาด้วย เนื่องจากหลังทำเลสิกเสร็จสายตาของคุณจะยังไม่พร้อมใช้งานได้ทันที ต้องมีการใส่ที่ครอบดวงตาเพื่อป้องกันเชื้อโรค ฝุ่น แสงแดด รวมถึงมือของเราที่อาจจะไปสัมผัสโดนบริเวณรอบดวงตานั้นเอง ดังนั้นจึงทำให้ไม่สามารถขับรถยนต์กลับบ้านเองได้     Laser Vision เชื่อว่าเพื่อนๆ เข้าใจเรื่องการเตรียมตัวก่อนทำเลสิกแบบ NanoRelex และบอกเลยว่าไม่ยาก ไม่วุ่นวายแน่นอน หากมีข้อมูล หรือคำถามตรงไหนสามารถโทรสอบถาม Laser Vision ได้เลยนะ      
ศูนย์เลสิก LASER VISION
ทำไมทุกคนถึงเลือก NanoRelex
ทำไมทุกคนถึงเลือก NanoRelex สำหรับคนที่กำลังมองหาการทำเลสิกอยู่ตอนนี้ มักจะเจอโพสต์เกี่ยวกับ NanoRelex ขึ้นมาในหน้า Facebook หรือช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ อยู่บ่อย ๆ แน่เลย โดยเฉพาะ NanoRelex ของ Laser Vision    ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้คนมากมายไม่ว่าจะเป็นคนมีชื่อเสียง คนทั่วไป  จนหลายคนเกิดสงสัยว่า ทำไมทุกคนถึงทำเลสิกด้วยเทคโนโลยี NanoRelex ของ Laser Vision กันนะ วันนี้เราจะบอกทุกคนให้รู้เอง   1.NanoRelex นั้นมีประสิทธิภาพ และ คุณภาพสูง ซึ่งช่วยลดขั้นตอนการทำงานในการผ่าตัด เนื่องจากเทคโนโลยีตัวนี้มีความแม่นยำ และความปลอดภัยที่สูงมาก ลดระยะเวลาและช่วยให้คุณมองเห็นโลกที่สดใสขึ้นเพียงไม่กี่วินาที   2.การฟื้นฟูที่รวดเร็วหลังจากทำเลสิกด้วยเทคโนโลยี NanoRelex  ช่วยให้กระบวนการฟื้นตาจากการทำเลสิกเป็นเรื่องรวดเร็วมากขึ้นในระยะเวลาเพียง 1 วัน ซึ่งสามารถช่วยให้ผู้รับบริการสามารถทำกิจกรรมประจำวันได้เร็วขึ้นกว่าเดิม ทำให้การทำเลสิกแบบ NanoRelex ช่วยเรื่องของการประหยัดเวลาได้อย่างดีเยี่ยม   3.ความคุ้มค่าของสุขภาพตา ซึ่งที่ผ่านมาผู้รับบริการมองว่าการทำเลสิกด้วยเทคโนโลยี NanoRelex มีค่าใช้จ่ายที่คุ้มค่า และสมเหตุสมผลมากๆ เมื่อเทียบกับการรักษาตาอื่น ๆ ในระยะยาว   4.สุดท้าย… ผู้ที่เข้ามารับบริการไม่ต้องใช้แว่นตาและคอนแทคเลนส์อีกต่อไป โดยข้อ นี้ถือเป็นเหตุผลหลักหลายคนเลือกการทำเลสิกด้วยเทคโนโลยี NanoRelex เพื่อกลับมามีสายตาที่ดีโดยไม่ต้องใช้แว่นตา และคอนแทคเลนส์อีกต่อไป   ดังนั้นหากใครกำลังพิจารณาเรื่องการทำเลสิกอยู่ตอนนี้ Laser Vision แนะนำว่าควรทำ! เพราะเรื่องสุขภาพตาเรานั้นเป็นสิ่งที่คุ้มค่าต่อการลงทุน  โดนเฉพาะ NanoRelex ของ Laser vision ที่มีเพียบพร้อมด้านเทคโนโลยีการทำเลสิก แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การบริการที่ละเอียดรอบคอบ และใส่ใจทุกรายละเอียด  หากคุณต้องได้ลองมาสัมผัสด้วยตัวเองแล้ว รับรองว่าจะได้เห็นโลกชัดขึ้นต่างจากเดิมแน่นอน  
ศูนย์เลสิก LASER VISION
ใส่แว่นแล้วปวดตา เกิดจากสาเหตุอะไร
ใส่แว่นแล้วปวดตา เกิดจากสาเหตุอะไร เพื่อนๆ ที่ใส่แว่นตาแล้วมีอาการปวดตา จนถึงขั้นปวดหัวหนักกันเลยนั้น หลายคนคงคิดว่าเกิดจากการทำงานหนักนั้นก็เป็นหนึ่งปัจจัยที่ถูกส่วนหนึ่ง แต่เพื่อนๆ อาจจะมองข้ามสิ่งสำคัญ สิ่งนั้นก็คือ “แว่นตา”   วันนี้ Laser Vision จะมาบอกให้ว่าทำไมใส่แว่นตาแล้วรู้สึกปวดตา   1. สภาพของแว่นตา : แน่นอนว่าสภาพแว่นตามีผลกับการมองเห็นของคุณ บางคนคุณภาพแว่นไม่ได้ดีเหมือนเดิม หรือเสื่อมสภาพตามการใช้งาน ทำให้คุณภาพของเลนส์แว่นเสื่อมสภาพ รวมถึงกรอบแว่น ขาแว่นที่ใส่แล้วหลวม ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลกระทบต่อสายตาทำให้เวลาใส่แว่นตาแล้วรู้สึกปวดตา   2. นอกจากนี้การเลือกใช้เลนส์แว่นตาไม่เหมาะสมกับสายตาก็เป็นอีกสาเหตุ เช่น ใส่เลนส์แว่นที่น้อยกว่าค่าสายตา หรือมากกว่าค่าสาย รวมถึงคุณภาพของเลนส์ของแต่ละยี่ห้อก็สำคัญ การเลือกเลนส์ที่เหมาะสมและดีส่งผลต่อการมองเห็นและสุขภาพตาเต็มๆ   3. อีกสิ่งที่ลืมไม่ได้คือ อาการผิดปกติที่สายตา ดังนั้นคุณควรไปตรวจสุขภาพตาประจำปีอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร หรือใช้งานผิดวิธีไหม และรับคำแนะนำมาเพื่อจะได้นำมาปรับใช้  แต่ถ้าไม่อยากปวดตาจากการใส่แว่นแล้วละก็ Laser Vision แนะนำการทำเลสิกด้วยเทคโนโลยีที่ดีที่สุด NanoRelex ที่มาพร้อมความแม่นยำ และความปลอดภัยสูงสุด ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที โลกที่คุณมองเห็นจะดีขึ้นแน่นอน     4. แต่ที่สำคัญเลยมาก ๆ ก็คือ การตรวจสุขภาพตาประจำปี  โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีปัญหาเรื่องสายตาเช่น คนใส่แว่น สายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง และอื่นๆ ที่ต้องตรวจสุขภาพตาสม่ำเสมอเพื่อให้เรารู้ว่าเป็นอย่างไร เราใช้งานหนักและผิดวิธีไหม เพราะสุขภาพตาเป็นเรื่องที่ไม่ควรเสี่ยง   ส่วนใครไม่อยากใส่แว่น หรือไม่อยากกังวลกับการใช้แว่นแล้วเกิดปัญหา Laser Vision มีทางออก อย่างการทำเลสิกด้วยเทคโนโลยี NanoRelex ที่ทันสมัยที่สุดในเวลานี้ ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที โลกคุณจะสดใสขึ้นกว่าเดิม
ศูนย์เลสิก LASER VISION
ลงทุนสุขภาพตาสักครั้ง ช่วยให้ชีวิตดีขึ้นด้วย NanoRelex
ลงทุนสุขภาพตาสักครั้ง ช่วยให้ชีวิตดีขึ้นด้วย NanoRelex หลายคนที่กำลังลังเล และตัดสินใจไม่ได้ว่าจะทำเลสิกดีไหม? Laser Vision อยากบอกว่าเรื่องสุขภาพของดวงตาทุกคนคุ้มค่าต่อการลงทุนอย่างแน่นอน      โดยเฉพาะการทำเลสิกด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในเวลานี้อย่าง NanoRelex มาดูกันว่าทำไมการทำเลสิกแบบ NanoRelex ถุงทำให้คุณรู้สึกว่าคุ้มค่าต่อการลงทุนเรื่องสุขภาพตากัน เห็นผลลัพธ์ทันที หลังจากการทำเลสิก ผู้รับบริการทุกคนสามารถเห็นผลลัพธ์ทันที และสามารถกลับไปทำกิจกรรมประจำวันได้ทันทีโดยไม่ต้องรอนาน ที่สำคัญแผลหายได้ในเวลาเพียง 1 วัน   1. ไม่ต้องใช้แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์อีกต่อไป ซึ่งเลสิกช่วยปรับปรุงสายตาในรูปแบบที่ไม่ต้องใช้แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์อีกต่อไป ซึ่งช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องหาแว่นตาตอนหาไม่เจอ หรือดูแลคอนแทคเลนส์ทุกครั้ง หรือต้องยอดน้ำตาเทียมบ่อยๆ   2. ประหยัดเวลาและคุ้มค่าทุกการใช้จ่าย การทำเลสิกช่วยประหยัดเวลาในการดูแลสายตาและลดค่าใช้จ่ายในการซื้อแว่นตาใหม่ทุก ๆ ปี หรือ 2 ปี หรือคอนแทคเลนส์ในระยะยาว   นอกจากนี้ยังส่งผลต่อสุขภาพใจ ทำให้รู้สึกมีความมั่นใจ สามารถออกไปใช้ชีวิตได้ไร้กังวล ไม่ว่าจะเป็น การออกกำลังกาย เล่นฟุตบอลกับเพื่อนโดยที่ไม่ต้องถอดแว่นเล่น    แน่นอนว่าทั้งหมดนี้คุณอาจไม่เข้าใจทั้งหมด ดังนั้น Laser Vision อยากให้ทุกคนมาพบกับสิ่งที่คุ้มค่าต่อการลงทุนอย่างการทำเลสิกด้วยเทคโนโลยี NanoRelex ที่ล้ำหน้า และทันสมัยที่สุดในตอนนี้ เพื่อช่วยให้คุณมองเห็นโลกที่สดใส และมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าที่เคยเป็น  
ศูนย์รักษาต้อกระจก
ศูนย์เลสิก LASER VISION
ศูนย์รักษากระจกตา
โรคเกี่ยวกับดวงตาที่มีโอกาสเกิดกับพนักงานออฟฟิศ
โรคเกี่ยวกับดวงตาที่มีโอกาสเกิดกับพนักงานออฟฟิศ ไหนใครบ้างที่ทำงานอยู่หน้าจอคอมนานๆ บ้าง Laser Vision เชื่อว่ามีเยอะแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ๆ ที่เป็น Graphic Designer , Developer, Editor และอาชีพอื่นๆ ปัญหาที่มักจะเกิดตามมาก็คือสายตาล้า อ่อนเพลีย และบางคนก็คิดว่าไม่เป็นไร นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ โรคเกี่ยวกับดวงตา ดังนั้น Laser Vision จะมาบอกให้ฟังเองว่าโรคเกี่ยวกับดวงตาที่อาจเกิดขึ้นกับพนักงานออฟฟิศมีโรคอะไรบ้าง   1. โรคตาสัมผัส หรือตาแห้ง เกิดจากการใช้สายตาติดต่อกันเป็นเวลานานๆ อย่างเช่น นั่งทำงานอยู่หน้าจอคอม ส่งผลให้เรารู้สึกคัน ระคายตาเหมือนมีอะไรติดอยู่ และเริ่มมีอาการแพ้แสง และลม บางครั้งมีอาการตามัวด้วย   2. ต้อกระจกตาเป็นพิษ ปกติจะพบได้กลุ่มผู้สูงวัย แต่กลุ่มพนักงานออฟฟิศก็สามารถเกิดได้เช่นกัน ช่วงแรกจะรู้สึกตาพร่ามัว มองเห็นภาพซ้อน ตอนขับรถเวลากลางคืนเห็นแสงกระจาย และอื่นๆ   3. โรคจอประสาทเสื่อม โรคนี้มักพบได้ง่ายในกลุ่มผู้สูงอายุ แต่แน่นว่าพนักงานออฟฟิศก็มีโอกาสเช่นกัน เพราะเกิดจากการใช้สายตาหนัก และเกิดจากการสูบบุหรี่ ช่วงแรกของอาการอาจไม่รู้เลยด้วยซ้ำ ดังนั้นควรหมั่นตรวจสุขภาพตาเป็นประจำทุกปี   4. โรคซีวีเอส หรือชื่อเต็มๆ ก็คือ คอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม เป็นโรคที่พบได้ง่ายในกลุ่มที่ใช้งานคอมพิวเตอร์นานๆ แต่ละคนก็จะแสดงอาการมากน้อยแต่ต่างกันออกไป ช่วงแรกจะเริ่มมีอาการแพ้แสง ปวดกระบอกตา ตาแห้ง หรือตาพร่ามัว   ทั้งหมดนี้ก็เป็นโรคที่มีโอกาสเกิดขึ้นกับกลุ่มเพื่อนๆ ที่เป็นพนักงานออฟฟิศ ดังนั้นอย่าลืมดูแลสุขภาพตา พักสายตาระหว่างทำงานทุกๆ ชั่วโมง ไม่ใช้โทรศัพท์ให้ห้องมืดๆ ออกกำลังกาย ทานของที่มีประโยชน์ก็ช่วยให้สุขภาพตาเราดีได้นะ    
  • ...
ที่อยู่
Laser Vision International LASIK Center

10/989 ซ.ประเสริญมนูกิจ 33 แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร 10230

ช่องทางติดต่อ
Line